พระวินัยปิฎก ภิกขุนีวิภังค์ [2. สังฆาทิเลสกัณฑ์] สังฆาทิเลสสิกขาบทที่ 1 อนาปัตติวาร
อนาปัตติวาร
ภิกษุณีต่อไปนี้ไม่ต้องอาบัติ คือ
[681] 1. ภิกษุณีถูกพวกชาวบ้านดึงตัวไป
2. ภิกษุณีขออารักขา
3. ภิกษุณีบอกไม่เจาะจงบุคคล
4. ภิกษุณีวิกลจริต
5. ภิกษุณีต้นบัญญัติ
สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ 1 จบ
พระวินัยปิฎก ภิกขุนีวิภังค์ [2. สังฆาทิเลสกัณฑ์] สังฆาทิเลสสิกขาบทที่ 2 นิทานวัตถุ
สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ 2
ว่าด้วยการบวชให้สตรีผู้เป็นโจร
เรื่องชายาเจ้าลิจฉวีกับภิกษุณีถุลลนันทา
[682] สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อาราม
ของอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตกรุงสาวัตถี ครั้งนั้น ในกรุงเวสาลี ชายาของเจ้าลิจฉวี
องค์หนึ่งประพฤตินอกใจพระสวามี เจ้าลิจฉวีผู้นั้นตรัสกับหญิงนั้นดังนี้ว่า เอาละ
เธอจงงดเว้น ถ้าไม่เช่นนั้นฉันจะทำโทษเธอ นางแม้จะถูกว่ากล่าวอย่างนี้ก็ไม่เชื่อ
ต่อมา คณะเจ้าลิจฉวีได้ประชุมกันด้วยราชกรณียกิจบางอย่าง
เจ้าลิจฉวีองค์นั้นได้ตรัสกับพวกเจ้าลิจฉวีดังนี้ว่า ท่านทั้งหลายขออนุญาตให้
หม่อมฉันจัดการกับสตรีคนหนึ่ง
คณะถามว่า สตรีผู้นั้นคือใคร
เจ้าลิจฉวีนั้นตอบว่า นางคือภรรยาประพฤตินอกใจของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจัก
ฆ่านาง
คณะกล่าวว่า ท่านจงรู้เองเถิด
สตรีนั้นทราบข่าวว่า สามีประสงค์จะฆ่านาง จึงเก็บของสำคัญ ๆ หนีไปยังกรุง
สาวัตถี เข้าไปหาพวกเดียรถีย์ขอบวช พวกเดียรถีย์ไม่ต้องการบวชให้ นางจึงเข้า
ไปหาพวกภิกษุณีขอบวช พวกภิกษุณีก็ไม่ต้องการจะบวชให้ จึงเข้าไปหาภิกษุณี
ถุลลนันทาอวดของมีค่าแล้วขอบวช ภิกษุณีถุลลนันทารับเอาสิ่งของแล้วบวชให้นาง
ต่อมา เจ้าลิจฉวีนั้นทรงตามหาสตรีนั้นไปถึงกรุงสาวัตถี พบนางบวชอยู่ใน
สำนักภิกษุณี จึงเข้าไปเฝ้าพระเจ้าปเสนทิโกศลถึงที่ประทับ ครั้นถึงแล้วได้กราบทูล
พระเจ้าปเสนทิโกศลดังนี้ว่า ขอเดชะ ชายาของหม่อมฉันขโมยของมีค่าหนีมา
กรุงสาวัตถี ขอพระองค์จงทรงอนุญาตให้จับนาง
พระเจ้าปเสนทิโกศลตรัสว่า เชิญท่านสืบหานาง พบแล้วจงมาบอก
เจ้าลิจฉวีกราบทูลว่า หม่อมฉันเห็นนางบวชอยู่ในสำนักภิกษุณี พระเจ้าข้า